โอเวอร์เทรนนิ่ง คืออะไร | ซ้อมปั่นจักรยานยังไงให้เป็นขาแรง ตอนที่ 3

 


คุณกำลังมีอาการแบบนี้อยู่ใช่ไหมครับ? 🤔

🚴 ซ้อมปั่นจักรยานไปเรื่อยๆ แล้วรู้สึกว่าพัฒนาลง รู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา นอนไม่ค่อยหลับ รู้สึกไม่อยากปั่นจักรยานอีกต่อไป

👉 คุณอาจจะกำลังมีอาการ "โอเวอร์เทรน" อยู่ก็ได้ครับ

✅ มาเรียนรู้เกี่ยวกับอาการนี้ เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเจอ หรือถ้าเป็นแล้ว ก็หาวิธีแก้ไขได้อย่างทันท่วงทีครับ

โอเวอร์เทรนคืออะไร แล้วทํายังไงถึงโอเวอร์เทรน คลิปนี้มีคําตอบ

สวัสดีครับ ผม แจ๊ค วัชรพงษ์ แก้วสะอาด กับวีดีโอในซีรีย์ซ้อมยังไงให้เป็นขาแรงนะครับ

ตอนนี้เป็นตอนที่สามแล้ว สองตอนแรกนะครับ

ย้ำอีกครั้งหนึ่ง เราได้คุยกันไปถึงว่า เราต้องมีการตั้ง ตั้งเป้าหมายนะครับ

เป็นก้าวแรกของการเป็นขาแรง

ตอนที่สองเราได้กล่าวไปแล้วนะครับว่า ทําไมนักปั่นถึงจะต้องซ้อม

ทําไมถึงจะซ้อมกันวันละหลายๆชั่วโมง เพื่อได้ไปอธิบายให้คนรอบรอบข้างเข้าใจนะครับ

ว่าเราทําไปเพื่ออะไร

สําหรับตอนที่สามนี้ เราจะมากล่าวถึงว่าคําว่าโอเวอร์เทรน

หลายๆคนที่ปั่นจักรยานมาสักพักหนึ่ง ก็อาจจะเคยได้ยินนะครับ

ว่าเขาพูดถึงว่า เฮ้ย อย่าปั่นมากนะ เดี๋ยวจะโอเวอร์เทรน อย่างงู้นอย่างงี้

เรามารู้จักกันก่อนครับว่าโอเวอร์เทรนแปลว่าอะไรนะครับ

โอเวอร์เทรน โอเวอร์แปลว่าบน เทรนแปลว่ารถไฟ สรุปแปลว่า บนรถไฟ

อ่ะ ล้อเล่น โอเวอร์เทรนแปลว่า การที่เราฝึกซ้อมมากเกินไปจนร่างกายรับไม่ไหว

ศัพท์ง่ายๆ เขาเรียกว่าพัง

อ่า อาการเป็นยังไง เดี๋ยวเราจะมาพูดถึงนะครับว่าอาการของการโอเวอร์เทรนเป็นยังไง

แต่ก่อนอื่น เดี๋ยวขอเกริ่นอีกนิดหนึ่ง

บางคนก็อาจจะได้ยินคําว่าอันเดอร์เทรน ไม่ใช่แปลว่าใต้รถไฟนะครับ

อันเดอร์เทรนก็แปลว่า ซ้อมน้อยเกินไปนะครับ

เรามีโอเวอร์เทรน เรามีอันเดอร์เทรน คราวนี้เราก็มีคําว่าเวลเทรน แปลซ้อมกําลังพอดี

อันนี้เป็นสิ่งสําคัญมากที่ทําไมเราต้องมีโปรแกรมซ้อม ทําไมเราต้องมีอุปกรณ์โน่นนี่นั่น มาประกอบในการซ้อม

ทําไมเราต้องวัดความรู้สึกของตัวเอง ถ้าเราไม่มีอุปกรณ์อะไร

เราก็ใช้ความรู้สึกของตัวเองในการซ้อมก็ได้ นี่คือคําตอบว่าทําไมเราต้องการที่จะซ้อมให้พอดี

เราทําทุกวิถีทางเพื่อจะหาว่า ไอจุดพอดีของการซ้อมเนี้ยมันอยู่ตรงไหน

ฝรั่งเวลาเขาเปรียบเทียบการซ้อมที่พอดีเขาจะเปรียบเทียบกับมาร์ชเมลโล่

เพราะฝรั่งเนี้ย เวลาเขาไปแคมป์ปิ้ง เวลาเขาไปนอนเต็นท์กลางป่า

เขาจะต้องมีการเอามาร์ชเมลโล่ ไอขนมหวาน ก้อนสีขาวขาวกลมๆเนี้ย เอาไปปิ้ง

เวลาฝรั่งเขาเทียบถึงการซ้อมที่พอดี เขาก็เลยเปรียบเทียบกับไอก้อนมาร์ชเมลโล่เนี้ย

มาร์ชเมลโล่ปกติจะเป็นสีขาวๆ ถ้าเราเอาไปปิ้ง ปิ้งห่างไฟมันก็เป็นสีขาวๆ นิ่มๆ กินไม่อร่อย

ใกล้ไฟเกินไป มันก็ไหม้ มันก็ดำ อันนั้นก็คือโอเวอร์เทรน

ปิ้งกําลังพอดี กรอบนอกนุ่มในอันนี้คือเวลเทรน กินอร่อย

คราวนี้เราก็มาดูอีกว่า วัฏจักรของนักปั่น หรือว่าคนที่ออกกําลังกายใหม่ๆ

คนที่เริ่มออกกําลังกายก็คือเรายังไม่ได้เทรน ก็เรียกว่าเราเป็นอันเดอร์เทรนอยู่ใช่ไหมครับ

พอเราอันเดอร์เทรน เราเริ่มออกกําลังกาย อาจจะมีโปรแกรมซ้อมหรือไม่มีอะไรก็ตาม

ร่างกายจะเกิดการปรับตัว เกิดการปรับตัว ปรับตัวแข็งแรงขึ้น แข็งแรงขึ้น

จนถึงจุดจุดหนึ่ง เราเริ่มแข็งแรงมากมาก เราก็อาจจะแบบ เออ เราต้องไปลงแข่งบ้างแล้วนะครับ

พอไปแข่งเริ่มชนะบ้าง อะไรบ้าง ติดโพเดี้ยมบ้างอะไรบ้าง

คราวนี้ยิ่งได้ใจ เราเรียกว่าเหมือนนักมวย นักมวยได้ใจ

ไอการขึ้นโพเดี้ยมครั้งแรกๆ มันไม่ยากเท่าการที่เราจะขึ้นในครั้งต่อๆไปได้อีก

มันก็เลยทําให้นักปั่นหรือนักกีฬาหลายๆคน เกิดความกดดันว่า ฉันจะต้องทําให้ดีกว่าเดิม

หรืออย่างน้อยฉันต้องทําให้ได้เท่าเดิม เกิดอะไรขึ้นครับ เราก็กังวลว่าไอที่เราซ้อมเนี้ยมันพอไหม

ซ้อม เอ๊ะ ซ้อมไม่พอ ทําให้เราต้องซ้อมมากขึ้น มากขึ้น มากขึ้น มากขึ้นทุกวัน

ซ้อมมากจนถึงจุดที่หนึ่งร่างกายบอก เฮ้ย ฉันไม่ไหวแล้ว

อันนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเราโอเวอร์เทรน

อย่างที่บอกครับ การซ้อมคือการทุบกระท้อน ไม่ไม่ไม่ วันนี้ผมไม่เล่นมุข

ทุบกระท้อนให้ช้ำ ทุบแล้วเราต้องพัก ร่างกายจะปรับตัวตอนที่เราพัก ซ้อมแล้วไม่พัก สุดท้ายก็พัง

คราวนี้ เดี๋ยวเรามาดูนะครับว่า อาการของการโอเวอร์เทรนเนี้ย มีอาการอะไรบ้าง

หนึ่ง คลื่นไส้อาเจียน เหม็นอาหาร เหม็นสามี อันนี้แนะนําให้ตรวจครรภ์

ไร้สาระมาเยอะ คราวนี้เข้าเรื่องอาการโอเวอร์เทรน ถ้าคุณมีอาการต่อไปนี้

หนึ่ง ปั่นไม่ดีเหมือนเดิมนะครับ อันนี้ต้องเป็นบ่อยๆนะ ไม่ใช่แบบว่าปั่นไม่ดีเหมือนเดิมวันสองวัน

แล้วคุณจะโอเวอร์เทรน หมายถึงว่า อย่างเช่นสมมุติว่า คุณเคยปั่นไปกับกลุ่มได้

ตามกลุ่มเขาได้ เกิดมาหลายๆวัน เอ๊ะ ทําไมเวลาเราไปปั่นกับกลุ่มแล้วหลุดบ่อยจังเลย

เดี๋ยวหลุด เดี๋ยวหลุด ทั้งๆที่เขาก็ปั่นเหมือนเดิม ความเร็วเท่าเดิม จํานวนคนเท่าเดิม

หัวลากก็หน้าเดิมๆ แต่ทําไมนี้เราเริ่มตามไม่ทัน ทําไมรู้สึกเหนื่อย ล้ากว่าปกติ

อาการขั้นต่อไป นอนไม่ค่อยหลับ อันนี้ผมเคยเป็นนะ ช่วงที่แบบซ้อมหนักๆ

เวลานอนกลางคืนเนี้ย มันจะรู้สึกหลับไม่สนิท เดี๋ยวตื่น เดี๋ยวรู้สึกได้ยินเสียงโน่นนี่นั่น

มันร่างกายมันไม่สบาย มันจะรู้สึกนอนไม่ค่อยหลับกระสับกระส่าย

ทําให้เรารู้สึกว่านอนไม่อิ่มสักคืนหนึ่ง แล้วเช้ามาเราก็ต้องตื่นไปซ้อมอีกนะครับ

อันนี้จะเป็นอาการหนึ่ง ที่เรียกว่าอาการของการโอเวอร์เทรน

อาการต่อมานะครับ เป็นตะคริวบ่อย หรือว่าปวดกล้ามเนื้อบ่อยๆ และนานเกินไป

ปวดปวดที่เดิมๆ แล้วก็รู้สึกว่ามันไม่หายสักทีนะครับ

ตะคริวเนี้ย ตะคริวเกิดจากอะไร ตะคริวเกิดจากเราออกแรงเกินกําลังที่ร่างกายจะทนไหว

มันไม่ใช่เรื่องอื่นใดเลย เวลาที่เราออกแรงเกินกําลังเป็นเวลานานๆ

ร่างกายก็จะบอกว่า เฮ้ย หยุดเถอะ ฉันไม่ให้เธอไปต่อแล้วนะ

เพราะว่าถ้าเธอไปต่อมากกว่านี้พังแน่ๆ เพราะฉะนั้นร่างกายก็เลยสั่งให้กล้ามเนื้อเนี่ย

มันเกิดอาการเกร็งไม่ให้เราไปต่อ ให้เราหยุดพักไม่ไปไกล

อันนี้คือปฏิกิริยาของร่างกาย

อาการต่อมาของอาการโอเวอร์เทรนที่ควรจะสังเกตก็คือหัวใจสูง

หัวใจสูงไม่ใช่ว่าคนมีจิตใจสูงส่งอะไร

หมายถึงว่า อย่างเช่นสมมุติว่า เราเคยปั่นเอ็นดูร้านอยู่ที่หัวใจที่ประมาณ 120 ครั้งต่อนาที

ปั่นความเร็วเท่านี้ เส้นทางนี้ ปั่นกับคนๆนี้ เส้นทางทุกอย่างเหมือนเดิม

อยู่มาวันหนึ่ง เอ๊ะ ทําไมคราวนี้หัวใจเรา 140 ผิดปกติแล้วนะครับ จาก 120 กลายเป็น 140

เอ๊ะ ขึ้น อ่ะก็ไม่เป็นไร วันสองวัน เป็นต่อเนื่องกันนานๆ เป็นอาทิตย์เป็นเดือนนะครับ

อันนี้ต้องสงสัยแล้วว่า ร่างกายกําลังบอกอะไรคุณนะครับ

ถ้าคุณใช้ตัววัดการเต้นของหัวใจก็คือ ตัวเนี้ยมีประโยชน์มาก ทําให้เราคอยสังเกตตัวเองได้

เรานี่ฟิตไม่ฟิต ร่างกายเราเป็นยังไง เพราะยังไงเนี่ย อย่างที่ผมเคยบอกไว้ในคลิปที่แล้ว

ก็คือหัวใจเป็นสิ่งสําคัญในการปั่นจักรยาน หัวใจก็เป็นสิ่งสําคัญในการดํารงชีวิตอยู่

ถ้าหัวใจหยุดเต้นเมื่อไหร่ก็ตายเมื่อนั้นนะครับ

เพราะฉะนั้นเนี่ยนักปั่นเรามีเครื่องมือในการอัตราการเต้นของหัวใจใช้ตัวนี้ให้เป็นประโยชน์

ถ้าอยู่มาวันหนึ่งหัวใจเกิดเต้นผิดปกติไปจากที่เคย ให้สงสัยเอาไว้ว่าเราอาจจะโอเวอร์เทรน

ถ้าเราโอเวอร์เทรน ก็พักก่อนนะครับ พักก่อนวันสองวัน สามวัน อาทิตย์หนึ่ง เดือนหนึ่ง

เข้าที่เมื่อไหร่ค่อยกลับมาซ้อมกันใหม่

อีกอย่างหนึ่งนะครับ บางคนบางคนคิดว่าโอเวอร์เทรนเนี่ย มันเกี่ยวกับร่างกายอย่างเดียว

จริงๆไม่ใช่ โอเวอร์เทรนมันเกี่ยวทั้งกับร่างกายและจิตใจ ทําให้เรารู้สึก หมด Passion

หมด Passion หมดความรู้สึกว่า เอ้ อยากจะไปปั่น อยากจะไปเหนื่อยเหงื่อหยดติ๋งติ๋ง

อันนี้ก็คือ อาการของการโอเวอร์เทรน แล้วจะรู้สึกว่ากูไม่อยากปั่นจักรยานแล้ว

พอรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน

ผมจะคอยเล่าให้เพื่อนๆน้องๆพี่ๆที่เทรนอยู่กับผม ให้ฟังเป็นประจําว่า

เมื่อปีที่แล้วนี่เองนะครับ มีผู้หญิงเคยเป็นแชมป์โลกหลายสมัยโน่นนี่นั่น

สุดท้ายฆ่าตัวตายเพราะว่ารู้สึกเครียดจากการซ้อม ก็อาจจะมีอาการโอเวอร์เทรนเนี่ยแหละครับ

ก็คือว่าซ้อมหนักจนเกินไป จนเครียดเกินไป กดดันตัวเองมากเกินไป จนสุดท้ายฆ่าตัวตาย

เพราะฉะนั้นอย่ากดดันตัวเอง อย่าลืมว่าเราปั่นจักรยานเริ่มต้นเนี่ย เราปั่นเพราะอะไร

เราปั่นเพราะว่าเราอยากจะมีสุขภาพที่ดีนะครับ อันนี้คือประเด็นหลักสําคัญที่สุด

ส่วนเรื่องอื่น ขึ้นโพเดียมโน่นนี่นั่น ได้แฟนได้อะไร

อันนี้เป็นของแถม อย่าไปซีเรียสกับมันเยอะนะครับ ก็สนุกกับการปั่นดีกว่า

อย่าไปเครียดกับมันจนเกินไปนะครับ

พบกันคลิปหน้า อ่าคราวนี้ไม่พูดเยอะแล้ว อยากติดตามกันต่อไป ก็กดติดตาม สั่นกระดิ่งนะครับ

จะได้เห็นคลิปใหม่ๆเร็วๆนะครับ แล้วก็เราจะได้มาเป็นขาแรงมาด้วยกัน

สงสัยอะไรทิ้งไว้ ตอบได้ตอบ ทําคลิปได้ เดี๋ยวทําให้ แล้วเจอกันคลิปหน้าครับ สวัสดีครับ

ชีทสรุปสูตรซ้อม: https://docs.google.com/spreadsheets/d/1Nl4m3w4wmXEOWJGMLOEZFHbtvvgIvhVoJKAsf-DWxwE/edit?usp=sharing

อยากเก่งขึ้นอีก กดติดตาม แล้วสั่นกระดิ่ง คลิปนี้ทำเพื่อคนที่รักการปั่นทุกท่าน เผื่อจะได้ไปปั่นตูร์เดอฟร็องซ์กับเขามั่ง ลิงค์ที่น่าสนใจ เครื่องสำอางสมุนไพร Beauty by Herb

ความคิดเห็น